พระแหวกม่านเนื้อผงพิมพ์สมาธินี้ ถือเป็นพระผงรุ่นสุดท้ายของ ลพ.กวย ชุตินธโร โดยศิษย์ใกล้ชิดของท่านคือหมอเฉลียว เดชมา เป็นผู้สั่งทำจากโรงงานสร้างพระที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกรูปเหมือนเท่าองค์จริงของท่าน ที่ตั้งให้กราบไหว้อยู่หน้าวัดทุกวันนี้ พิธีกำหนดจัดขึ้นที่วัดโฆสิตาราม รวม 3 วัน 3คืน ในวันที่ 23-24-25 เดือนกุมภาพันธุ์ ปี2522 ในครั้งนี้ได้สั่งทำวัตถุมงคลในรูปแบบอื่นๆด้วยคือ- รูปเหมือนรุ่นสองของ ลพ.กวย เนื้อโลหะกะหลั่ยทอง ก้น “มะอะอุ” – พระสมเด็จฐานสิงห์เนื้อผงขาวและเนื้อใบลาน – พระสิวลีเนื้อดินเผา ซึ่งมีทั้งแบบพิมพ์มีย่ามและไม่มีย่าม และตะกรุดเสริมดวงชะตา ซึ่งพระผงแหวกม่าน –สมเด็จฐานสิงห์และรูปหล่อก้นอุนั้น มีการสั่งทำขึ้นเพียงอย่างละ 500 ชิ้นเท่านั้น เพราะขณะนั้นวัดยังมีวัตถุมงคลที่เหลือตกค้างของปี2521 อยู่อีกหลายอย่าง เมื่อเสร็จพิธีพุทธาภิเษกแล้ว หลวงพ่อกวยได้ตรวจวัตถุมงคลที่นำมาเข้าในพิธีนี้และพบว่าพระแหวกม่านพิมพ์สมาธิที่สั่งมาทั้งหมดนั้น ผู้สร้างไม่ได้ใส่ชื่อวัดของท่านไว้ด้วยซึ่งจะทำให้ไม่รู้ว่าเป็นพระของใครในวันหน้า ต่างจากสมเด็จฐานสิงห์ที่มีระบุไว้ครบถ้วนทั้งแบบเนื้อขาวและดำ ท่านจึงให้หมอเฉลียวเก็บพระแหวกม่านขึ้นไว้บนวัดโดยยังไม่ให้จำหน่ายในพิธีครั้งนั้น ท่านบอกให้เอาไปเก็บไว้ก่อน รอสัก 10ปีจึงนำมาจำหน่ายอีกครั้ง คณะกรรมการจึงจัดให้มีการจำหน่ายวัตถุมงคลแบบอื่นๆในพิธีแก่ผู้มาร่วมงานตลอดทั้งสามวัน ปรากฏว่ามีผู้สนใจเช่าบูชากันล้นหลาม มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)แห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้วัดได้ยืนยันว่า เขาก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในพิธีนี้และได้เช่าบูชารูปหล่อก้นอุในพิธีปี22 นี้ด้วยเช่นกัน โดยวัตถุมงคลในพิธีปี22นี้ สามารถพูดว่าเป็นรุ่นสุดท้ายของ ลพ.กวยก็ยังได้ เพราะถัดจากงานพิธีนี้ไปอีกไม่ถึงเดือน ท่านก็อาพาธหนักและได้ถึงแก่มรณภาพในวันที่ 22 เมษายนปีเดียวกัน พระแหวกม่านพิมพ์สมาธิที่สั่งมาเข้าพิธีนี้ เป็นพระเนื้อผงขนาดกะทัดรัด มีแม่พิมพ์เป็นโลหะ กดสร้างด้วยเครื่องมือทันสมัย มีขนาดกว้าง 2 cm สูง 3 cm เท่าที่พบเจอมีทั้งเนื้อแก่น้ำมันและแก่มวลสารตามแต่การผสมเนื้อของโรงงานสร้าง และยังพบเจอเป็นเนื้อผงใบลานซึ่งบุตรสาวของหมอเฉลียว เดชมา ได้เลี่ยมทองและแขวนบูชาติดตัวตลอดมา แต่พระเนื้อใบลานจะมีน้อยมาก โดยหลังจาก ลพ.กวยมรณภาพแล้ว วัตถุมงคลของท่านที่มีอยู่ที่วัดก็ได้ถูกเช่าบูชาไปจำนวนมากจากผู้เคารพนับถือที่มากราบสังขารท่าน บางรายการที่เหลืออยู่ในห้องของท่านก็ได้ถูกขนย้ายออกไปเก็บไว้ที่อื่นหลายอย่าง รวมทั้งพระแหวกม่านสมาธิชุดนี้ ด้วยศิษย์ใกล้ชิดล้วนรับรู้กันดีว่าเป็นพระเครื่องที่เข้าพิธีมาแล้วอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนในพิธีสุดท้ายที่เรียกได้ว่าท่านปลุกเสกแบบทิ้งทวน และในอีกหลายปีต่อมา คุณหมอเฉลียวก็ได้นำมาแบ่งกันบูชาในกลุ่มลูกศิษย์ด้วยกัน ผู้ที่นำไปใช้ติดตัวก็พบกับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระพิมพ์นี้ มีทั้งแคล้วคลาดจากอันตราย ค้าขายดีมีโชคลาภอย่างอัศจรรย์ และที่สำคัญยังใช้อธิษฐานได้ผลดีเยี่ยม พระแหวกม่านรุ่นสุดท้ายพิมพ์นี้ ก่อปาฏิหาริย์มากกับทหารชายแดนในสามจังหวัดภาคใต้ที่ได้รับแจกจากคนในครอบครัวของคุณหมอเฉลียว เดชมา ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนจะมีทั้งแคล้วคลาดและคงกะพัน ทำให้หลายคนมีชีวิตรอดปลอดภัยจากอันตรายตลอดมา อีกทั้งยังมีผู้เจอประสบการณ์ด้วยตนเองได้เขียนเล่าเรื่องราวที่เหลือเชื่อจากอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนน ที่ไม่น่าจะรอดจากความตายหรืออย่างน้อยที่สุดต้องมีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งพิการบ้าง แต่เขาเหล่านั้นกลับไม่มีส่วนใดบุบสลายหรือแตกหักแม้แต่น้อย คงมีบ้างเพียงเคล็ดขัดยอกและช้ำบวมเท่านั้น บางรายบูชาไม่นานก็มีโชคลาภครั้งแรกในชีวิตหลังจากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องราวที่มหัศจรรย์จากปากต่อปากที่บอกต่อกันไปเงียบๆ ทำให้พระแหวกม่านรุ่นสุดท้ายพิมพ์นี้ได้รับการถามถึง มีคนเสาะหาและอยากทราบข้อมูล จึงขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานในการสร้างและการปลุกเสกอีกรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อกวย ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระที่ท่านปลุกเสกแบบทิ้งทวนครั้งสุดท้าย
