
สำหรับผู้ที่เคารพนับถือ ลพ.กวยและสนใจพระพิมพ์ปรกโพธิ์9ใบของท่าน แต่ยังสับสนว่าแบบใดจะเป็นพระแท้ๆที่ทันท่านปลุกเสกไว้ ระหว่างพระปรกโพธิ์ในแบบที่พิมพ์เขยื้อนทับซ้อนกันและพระที่มีรายละเอียดในพิมพ์ชัดเจน อยากให้ข้อสังเกตไว้ว่า หลักการพิจารณาพระแท้ๆที่กดจากแม่พิมพ์ของตัวเองนั้น อย่างน้อยต้องมีความคมชัดเป็นพื้นฐาน ที่เซียนทุกยุคสมัยใช้พิจารณาเป็นเบื้องต้น ประเด็นต่อมาถึงจะดูตำหนิและธรรมชาติและความเก่า หากเป็นพระที่พิมพ์ไม่คมชัด แล้วจะดูตำหนิได้อย่างไร อยากทราบมานานแล้วว่า บางคน/บางกลุ่มใช้สมมุติฐานอะไรเป็นตัวชี้ชัดหรือกำหนดว่าแบบนั้นแท้ แบบนี้ปลอม ทั้งที่พระบางแบบ/บางพิมพ์นั้น ก็ไม่เคยเจอแม่พิมพ์มาก่อน และไม่เคยมีหลักฐานใดชี้ชัดแบบใช้พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้เลยว่า รูปแบบอย่างนั้นจะผ่านมือหลวงพ่อกวยมาจริง เพียงการอาศัยแต่ลมปากของผู้มีอาชีพขายพระ ย่อมให้น้ำหนักได้เพียงไม่ถึงครึ่งของความจริง ที่เหลือล้วนเป็นความเชื่อที่ยึดต่อกันมา ที่อาจจะผิดและอาจจะถูก หากใครลองนำพระผงที่พิมพ์ไม่ชัด มีรายละเอียดเลือนราง มีพิมพ์ทรงลบเลือน หรือพิมพ์เขยื้อนซ้อนทับกันบางองค์ไปให้ช่างแกะแม่พิมพ์ โรงงานสร้างพระ หรือให้นักซ่อมพระมืออาชีพช่วยดู แล้วลองถามเขาว่าลักษณะแบบนี้เป็นการกดจากแม่พิมพ์ของตนเอง หรือเป็นแม่พิมพ์ที่ถอดแบบมา ท่านจะทราบคำตอบทันทีว่ากดสร้างมาจากแม่พิมพ์แบบใด ซึ่งพระปรกโพธิ์เก้าใบของหลวงพ่อกวยเป็นพระเครื่องที่ดียิ่งนัก ท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ที่เคารพนับถือได้นำไปบูชาเสริมดวงชะตาชีวิต เสริมสิริมงคลต่อตนเองแต่ยังมีปัญหามากมาย จนคนที่เพิ่งศึกษาเพื่อจะสะสมหรือหามาบูชาพากันท้อและถอดใจที่จะเรียนรู้หาความจริง เพราะหลายกลุ่มล้วนอ้างความถูกต้องด้วยกันทั้งสิ้น
ฝ่ายที่ 1 ถือรูปแบบพิมพ์ทรงที่ชัดเจน มีความคมชัดเป็นของแท้ กลุ่มนี้มีแม่พิมพ์โลหะที่เป็นพยานวัตถุ ที่สามารถจำลองเหตุการณ์จริงย้อนหลังได้, มีพยานบุคคลที่อยู่ทันในยุคสมัยหลวงพ่อ ที่จะสามารถยืนยันได้ทุกเวลา, มีเอกสารหนังสือยุคเก่าที่ทำขึ้นโดยลูกศิษย์หลวงพ่อและตีพิมพ์ภาพพระปรกโพธิ์ชัดไว้บ้างแล้ว , มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ปรากฏให้เห็นบนพยานวัตถุ เช่นลายมือ รอยจารต่างๆที่เขียนกำกับไว้บนองค์พระโดยหลวงพ่อกวย ซึ่งหลักฐานแบบนี้ถือเป็นสากล และใช้ตรวจสอบไปยังผู้เคยหยิบจับ ถือครองวัตถุชิ้นนั้นได้ โดยมีการยอมรับการพิสูจน์แบบนี้กันเป็นมาตรฐานสากลทั่วไป ดังเช่นรอยนิ้วมือบนปืน บนมีดในคดีต่างๆ ที่แม้ถูกโยนลงน้ำก็ยังสืบทวนไปยังต้นทางของผู้ครอบครองและใช้งานได้ ซึ่งศาลจะให้น้ำหนักในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เช่นนี้มากกว่าพยานบุคคล
ซึ่งฝ่ายที่ 2 ที่ยึดหลักการในเรื่องพระแท้ต้องมีพิมพ์ไม่คมชัด ต้องเขยื้อน ต้องแหว่งหาย หรือมีก้านใบติดไม่ครบนั้น เพราะนักสะสมยึดถือกันมาแบบนี้ แต่กรณีอย่างนี้มีข้อสงสัยที่อยากสอบถามว่า
–ท่านเคยมี/เคยพบเจอ แม่พิมพ์แบบพระที่โพธิ์เขยื้อน ก้านใบแหว่ง กิ่งโพธิ์ไม่ติดปรากฏให้เห็นบ้างหรือไม่ จะได้รู้กันไปเลยว่าช่างคนใดที่แกะแม่พิมพ์พระพิมพ์นี้ด้วยความหยาบชุ่ย ไม่มีความเป็นช่างแม้แต่น้อย หรือมีเจตนาให้ก้านขาดแหว่งและติดบ้าง-ขาดหายบ้าง โดยไม่มีจิตวิญญาณของศิลปิน ทั้งที่เป็นงานระดับมาสเตอร์พีช และทำแม่พิมพ์ให้พระเกจิมีระดับของอำเภอ
– เคยมีบุคคลใดในกลุ่มนี้ ที่เคยได้รับพระพิมพ์นี้จากมือหลวงพ่อกวยมาบ้าง เอาที่ยังมีตัวตนและสอบถามได้ เพื่อจะได้ไล่เรียงยุคสมัยปีที่ท่านได้รับมา และสอบทานกับคนยุคเก่านับสิบรายที่พร้อมจะค้นหาความจริงด้วยกัน
– พวกท่านเคยพบเห็นหรือมี พระปรกโพธิ์แบบพิมพ์เขยื้อน ที่ก้านแหว่งโพธิ์หด ลายใบหาย แต่มีการจารกำกับด้วยลายมือหลวงพ่อกวยบ้างไหม มีใครครอบครองอยู่บ้างไหม ขอดูสัก 5 องค์ จะได้เป็นการเทียบเคียงกันจากพยานวัตถุแบบชัดเจน ที่จะมีน้ำหนักของประจักษ์พยานมากกว่าลมปากหรือใช้เหตุผลเพียงบอกว่าผู้ใหญ่เคยบอกไว้ คนเก่าเขาเล่นมาแบบนี้ การจะพูดอ้างด้วยเหตุผลแบบนี้ถือว่า เด็กๆเขาหยอกเล่นกัน
คนเราถ้าโตๆด้วยกันแล้ว กินข้าวเหมือนกัน เรื่องแค่นี้เข้าใจได้ไม่ยากเลย เว้นเสียแต่จะไม่ยอมเข้าใจเท่านั้น ยังมีบุคคลที่เคยได้รับพระยุคเก่าแบบมีจารกำกับโดยหลวงพ่อกวย รับพระจากมือของท่านเองไม่น้อยกว่า 5 ท่าน บางท่านเป็นอดีตผู้พิพากษา บางท่านเป็นอดีตปลัดฯ บางคนเป็นศิษย์ในตำนานและยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งพวกท่านเหล่านี้ยินดีเปิดเผยข้อมูลให้คนรุ่นหลัง ขอเพียงอีกฝ่ายหนึ่งที่โต้แย้ง อย่าใช้เพียงลมปากที่แอบฟังหรือจำเขาว่ามา แล้วมาอ้างใช้เพื่อสาดโคลนใส่กันโดยไม่มีหลักฐานใดที่มากกว่าน้ำลาย